Biography Of Mai Kuraki

มาอิ คุรากิ นักร้อง J Pop ในสังกัด กิซ่า เร็คคอร์ดส์ ที่มาแรง ที่สุดอีก 1 คน เธอมีภาพพจน์เป็นเด็กสาวเรียบร้อยน่ารัก ต่างจาก นักร้องสาว J Pop ชื่อดังคนอื่น ๆ อย่าง อายูมิ ฮามาซากิ หรือ นามิเอะ อามุโระ ความสามารถในการแต่งเพลงและร้องเพลงเป็นเลิศและไม่เป็นรองใคร ตั้งแต่เพลงที่เย็นชา ไปจนถึงเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน เธอก็สามารถแต่งและร้องได้ดีทั้งนั้น ด้วยน้ำเสียงที่หวานและสื่อถึงความรู้สึกของเพลงได้ดี ทำให้เธอเป็นสาวน้อยแห่งเกาะญี่ปุ่น ที่น่าจับตาอีกคนหนึ่ง จุดเด่นอีกอย่างในเพลงของเธอ ก็คงเป็นการที่เธอแต่งเนื้อเพลงภาษาญี่ปุ่นปนอังกฤษเป็นว่าเล่น ที่ฟังแล้วแปลกแหวกแนว แต่ก็ยังสื่อถึงความรู้สึกของเพลงได้อย่างชัดเจน

ขณะที่เธออยู่ชั้นปีสองของโรงเรียนมัธยมปลาย (ม.5) เธอได้พบกับสตาฟฟ์ของค่ายเพลง กิซ่า สตูดิโอ และแล้วมาอิก็ได้ออกผลงานชิ้นแรกที่อเมริกาตอนอายุได้ 16 ขวบเท่านั้น ซิงเกิ้ลนั้นมีชื่อว่า Baby I Like บันทึกเสียงที่บอสตัน โดยบริษัท Cybersound โดยมี Perry Geyer ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท Cybersound เป็นโปรดิวเซอร์ ให้ งานที่ออกมาสร้างความ ประทับใจให้ มาร์ค เคมินส์ รีมิกเซอร์ชาวอเมริกันมาก เขาถึงกับ ลงมือรีมิกซ์เพลง Baby I Like ให้เธอ Baby I Like เวอร์ชั่น รีมิกซ์นี้ออกขายวันที่ 6 ธ.ค. 1999 ไว้ใช้เป็นเพลงแถมด้าน B สำหรับการวางแผงซิงเกิ้ลนี้ในรูปแบบแผ่นเสียง ทันทีที่มีร้านค้า ในญี่ปุ่นอิมพอร์ต Baby I Like ไปขายปุ๊บ เพลงนี้ก็ฮิตทันที ทันควัน

ธันวาคมปี 1999 มาอิก็ออกซิงเกิ้ลแรกในญี่ปุ่น Love, Day After Tomorrow กลายเป็นเพลงดังที่ขึ้นไปถึงอันดับ 1 ของ Oricon Chart ภายในเวลาอันสั้นเธอก็สามารถมีเพลงฮิตมากมาย ขึ้นอันดับ ในญี่ปุ่น ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยออกคอนเสิร์ต หรือ ปรากฏตัว ตามรายการทีวีของญี่ปุ่นเลย เพราะเธอต้องการตั้งใจอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมสอบ เอ็นทรานซ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าสอบเอ็นทรานซ์ที่นั่นหินสุด แต่ชื่อ มาอิ คุรากิ ก็เป็นที่คุ้นตา ตามหน้าหนังสือเพลงทั้งหลายแหล่บนแผง

มาอิ ได้รับการทาบทามให้ดีไซน์ตัวการ์ตูนประกอบเกมเพลย์สเตชัน Techno Bee Bee ที่ผลิตโดยบริษัท โคนามิ เมื่อเดือนเมษายน ปี 2000 เป็นตัวการ์ตูนที่รูปร่างคล้ายทั้งผึ้งและหมีแพนด้า เธอตั้งชื่อให้มันว่า My Bee Bear

ความที่ผลงานของเธอออกมาในแนว R&B ผสม ฮิพฮ็อป ทำให้ หลายคนบอกว่า มาอิ เป็น ฮิคารุ อุทาดะ หมายเลข 2 และเมื่อ มาอิ ออกผลงานเต็มชุดเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2000 ใช้ชื่ออัลบั้ม Delicious Way ก็มีการเปรียบเทียบยอดขายและความนิยม ของทั้งคู่ ยอดขายอัลบั้ม Delicious Way ของ มาอิ ในวันแรก ขายได้มากถึง 3.3 ล้านแผ่น ทำลายสถิติเดิมของ ฮิคารุ อุทาดะ กับอัลบั้มแรกของเธอ First Love ที่ขายได้ 2.9 ล้านแผ่นใน วันแรกที่วางแผง ทำให้แฟน ๆ ของ 2 สาวมักจะเขม่นกันอยู่ในที

14 มีนาคม 2001 มาอิ เป็น 1 ในนักเรียน 480 คนที่สอบผ่านชั้น มัธยมปลายจากโรงเรียน Ritsumeikan Uji จากนั้นก็เข้าไปเรียน ต่อที่มหาวิทยาลัย Ritsumeikan หลังจากนั้นเธอก็เริ่มปรากฏตัว เพื่อโปรโมตเพลงของเธอมากขึ้น รวมถึงรายการทีวีที่มีชื่อว่า "Mai-K TV" ซึ่งออกอากาศทางช่อง SKY PERFECT TV ch. 272 The MUSIC 272

ปี 2001 มาอิ เปิดโอกาสให้แฟน ๆ ใกล้ชิดเธอได้มากขึ้น กับทัวร์ คอนเสิร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม - 31 สิงหาคม โดยเธอได้ตระเวนไปยังเมืองสำคัญ 6 แห่งทั่วญี่ปุ่น ในเดือนมกราคม 2002 "Secret of my heart" อัลบั้มภาษาอังกฤษของเธอก็วางแผงที่อเมริกา ในเดือนตุลาคม ปีเดียวกันเธอก็ออกอัลบั้มที่ 3 ของเธอ Fairy Tale ในวันที่ 23 ตุลาคมซึ่งใกล้กับวันเกิดของเธอคือวันที่ 28 ตุลาคม ที่เธอจะครบอายุ 20 ปี เธอเปิดทัวร์คอนเสิร์ตทั่วญี่ปุ่นซึ่งเริ่มขึ้นในวันเกิดของเธอและกว่าคอนเสิร์ตจะสิ้นสุดก็เกือบ 8 เดือน

และในปี 2002 เธอได้ร่วมมีผลงานในอัลบั้ม "2002 FIFA WORLD CUB OFFICIAL ALBUM - SONGS OFKOREA/JAPAN" โดยอัลบั้มนี้จะมีนักร้องมากมายจากทั้งฝั่งญี่ปุ่นและฝั่งเกาหลีมาร่วมกันสร้างผลงาน โดยนักร้องจากทางฝั่งญี่ปุ่นได้แก่ B'z , Dragon Ash , The Gospellers , KEN HIRAI , Mr. Children , TUBE รวมทั้ง Mai Kuraki ด้วยนั่นเอง ซึ่งอัลบั้มนี้จะจำหน่ายไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย

เพลง Feel fine! ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลหนึ่งในปี 2002 และเพลง Kiss ปี 2003 ได้ไปเป็นเพลงประกอบของโฆษณาเครื่องสำอางค์ยี่ห้อ SEA BREEZE ของบริษัท Efty Shiseidou (ชิเซโด้) ในโฆษณาทั้งสองอัน มาอิก็ร่วมแสดงเองอีกด้วย
เพลง Danshingu หรือที่เรียกว่า Dancing ก็ได้ไปเป็นเพลงประกอบโฆษณาอีกเช่นกัน แต่คราวนี้เป็นโฆษณาอุปกรณ์สื่อสาร 'Iromero Yobu Dashi Oto' โฆษณานี้ไมจังก็แสดงเองคนเดียวด้วย

และเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2005 เธอก็จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Ritsumeikan โดยเธอเรียนในคณะวัฒนธรรมและสังคมสมัยใหม่ (Modern Culture and Society)

ข้อมูลจาก : Eotoday (Th) , mai-kuraki.com , Japankiku (illusion) , ไอรีน

http://www.geocities.com/thaimaihulahula/biography.html